สรุปหลังสอบ Mid Term
ตอนที่ 1
1. การส่งสัญญาณ Multicast คือ เป็นการสื่อสารระหว่างผู้ส่ง 1 รายกับผู้รับหลายรายบนระบบเครือข่าย การใช้โดยทั่วไป รวมถึงการปรับปรุงจากสำนักงาน และเอกสารตามระยะเวลา ของจดหมายข่าว เมื่อรวมกับ anycast, unicast และmulticast ซึ่งเป็นประเภทแพ็คเกตใน Internet Protocol Version 6 (IPV 6)
2. Proxy Server คือ การนำเครื่องคอมพิวเตอร์มาตั้งเพื่อให้บริการแก่กลุ่มผู้ใช้ที่อยู่ในกลุ่มเดียวกัน และกำหนดให้ผู้ใช้ทุกคนเรียกใช้ข้อมูล WWW ผ่านเครื่องคอมพิวเตอร์นี้ โดยเครื่องดังกล่าวจะมีการติดตั้งโปรแกรมเพื่อทำหน้าที่เรียกข้อมูล WWW มาให้บริการแก่ผู้ใช้ และจัดเก็บข้อมูลที่เคยถูกเรียกนั้นไว้ ในเครื่อง เพื่อให้บริการแก่ผู้ใช้ข้อมูลนั้นซ้ำ ได้ทันที โดยไม่ต้องเสียเวลาไปเรียกข้อมูลมาจากแหล่งข้อมูลภายนอกมาใหม่ ซึ่งเทคนิคดังกล่าว จะทำให้ผู้ใช้สามารถเรียกใช้ข้อมูลที่(ส่วนใหญ่)เคยมีผู้เรียกใช้มาก่อนได้รวดเร็วขึ้นเป็นอย่างมาก เนื่องจากไม่ต้องเสียเวลาไปเรียกข้อมูลจากแหล่งข้อมูลภายนอกมาใหม่ อันจะทำให้ประสิทธิภาพในการใช้งานระบบเครือข่ายอินเทอร์เน็ตเพิ่มขึ้นเป็นอย่างมาก
3. สาย UTP (Unshielded Twisted Pair) คือ เป็นสายโทรศัพย์แบบพื้นฐาน twisted pair เป็นสายทองแดงธรรมดาที่ต่อตามบ้านคอมพิวเตอร์ของบริษัทไปยังผู้ให้บริการโทรศัพท์ การหุ้มฉนวนที่สายและพันเป็นเกลียว เพื่อลดการรบกวนและการเหนี่ยวนำระหว่างสายสัญญาณแต่ละสัญญาณบนสาย twisted pair ต้องการสายทั้งสอง ในการติดตั้งโทรศัพท์ หรือคอมพิวเตอร์แบบ mulitiple connections ต้องการสาย twisted pair ตั้งแต่ 2 คู่ ขึ้นภายในสายเดียวกัน
5. Firewall คือ เป็นระบบรักษาความปลอดภัยของระบบคอมพิวเตอร์แบบหนึ่งที่นิยมใช้กันอย่างแพร่หลาย ซึ่งมีทั้งอุปกรณ์ Hardware และ Software โดยหน้าที่หลัก ๆ ของ Firewall นั้น โดย Firewall จะเป็นคนที่กำหนด ว่า ใคร(Source), ไปที่ไหน (Destination) , ด้วยบริการอะไร (Service/Port)
6. Cloud Computing คือ การประมวลผลที่อิงกับความต้องการของผู้ใช้ โดยผู้ใช้สามารถระบุความต้องการไปยังซอฟต์แวร์ของระบบ Cloud Computing จากนั้นซอฟต์แวร์จะร้องขอให้ ระบบ จัดสรรทรัพยากรและบริการให้ตรงกับความต้องการของผู้ใช้ โดยระบบสามารถเพิ่มหรือลดจำนวนทรัพยากรให้พอเหมาะกับความต้องการของผู้ใช้
7. ISP (Internet Service Provider) คือ เป็นบริษัท ที่ให้เอกชน และบริษัทเข้าถึงอินเตอร์เน็ต และบริการอื่นทีเกี่ยวข้อง เช่น การสร้าง web site และ virtual hosting โดย ISP มีอุปกรณ์และสายการสื่อสาร ที่เข้าถึงโดยต้องการ Point-of-Presence (POP) บนอินเตอร์เน็ต สำหรับการให้บริการ ตามพื้นที่ทางภูมิศาสตร์ ISP
8. Core Layer คือ เป็นศูนย์กลางของระบบ network หน้าที่หลักของ Layer คือทำสิ่งที่เรียกว่า Forward Packet โดยตัวมันจะรับ Packet ที่อยู่ใน Layer ต่างๆมาแล้วทำการ Forward ออกไป โดยบนตัวมันจะบรรจุเส้นทางหรือ Routing Table เพื่อที่จะได้ทำการ Forward Packet ไปยัง Network ต่างๆได้อย่างถูกต้อง
9. Star Topology คือ เป็นรูปแบบที่เครื่องคอมพิวเตอร์ทุกเครื่องที่เชื่อมต่อเข้าด้วยกันในเครือข่าย จะต้องเชื่อมต่อกับอุปกรณ์ตัวกลางตัวหนึ่งที่เรียกว่า ฮับ (HUB) หรือสวิตช์ (Switch)
10. สถาปัตยกรรม แบบ P2P (Peer to Peer) คือ ไม่มีความหมายชัดเจนของอุตสาหกรรมจะมีมุมมองที่แตกต่างกันหรือความเข้าใจ ส่วนใหญ่เห็นว่ารายละเอียดดังต่อไปนี้ P2P ทำให้อุปกรณ์เครือข่ายสามารถให้บริการกับอุปกรณ์เครือข่ายอื่น ๆ
ตอนที่ 2
1. Fault tolerant คือ อธิบายการออกแบบระบบคอมพิวเตอร์หรือส่วนประกอบ ดังนั้นในเหตุการณ์ที่ส่วนประกอบล้มเหลว ส่วนประกอบหรือกระบวนการสำรองสามารถเข้าแทนที่ทันทีโดยไม่สูญเสียการบริการ fault tolerant สามารถให้ได้โดยซอฟต์แวร์หรือฝังในฮาร์ดแวร์ หรือให้แบบผสม
2. Scalability คือ สามารถปรับขนาดระบบได้ตามภาระงาน
3. Quality of Service คือ การควบคุมพฤติกรรมต่างๆ ที่เกี่ยวข้องของระบบเพื่อให้บริการที่มีคุณภาพ เช่น มีการรับประกันเวลาที่ใช่ในการส่งข้อมูล การสูญหายของข้อมูลและ คุณภาพของสัญญาณตามที่ได้กำหนดไว้
4. Security คือ เป็นระบบรักษาความปลอดภัยครับ เช่น anti virus firewall ระบบการ monitor network การพยายามหาจุดบกพร่องของระบบแล้วแก้ไข การตรวจสอบตัวตนเพื่อให้เข้าใช้ได้เฉพาะผู้ได้รับอนุญาตเท่านั้น
ตอนที่ 3
OSI คือ (Open Systems Interconnection) เป็นคำอธิบายมาตรฐาน หรือ "reference model" (แบบจำลองอ้างอิง) สำหรับวิธีการส่งผ่านข่าวสารระหว่างจุด 2 จุดในเครือข่ายการสื่อสาร
เลเยอร์ 7 application layer, เลเยอร์นี้เป็นส่วนการสื่อสารได้รับการระบุ, คุณภาพการบริการมีการระบุ, user authentication และส่วนบุคคลได้รับการพิจารณา ข้อจำกัดบนไวยากรณ์ข้อมูล ได้รับการระบุ (เลเยอร์นี้ไม่ใช่การประยุกต์โดยตัวเอง แต่บางโปรแกรมประยุกต์ อาจจะทำงานใน application layer)
เลเยอร์ 6 presentation layer, เลเยอร์นี้ เป็นส่วนของระบบปฏิบัติการที่แปลงข้อมูลนำเข้า และส่งออกจากรูปแบบการนำเสนอไม่เป็นรูปแบบอื่น (ตัวอย่าง เช่น จากชุดข้อความ เป็น popup window กับ ข้อความที่มาถึงใหม่) บางครั้งเรียกว่า syntax layer
เลเยอร์ 5 session layer, เลเยอร์นี้ ตั้งค่า ประสานงาน แลกเปลี่ยน และหยุดการสนทนา โต้ตอบระหว่างโปรแกรมประยุกต์ที่แต่ละจุดปลาย ซึ่งเกี่ยวข้องถึง session และการประสานเชื่อมต่อ
เลเยอร์ 4 transport layer, เลเยอร์นี้ จัดการตัวควบคุม end-to-end (ตัวอย่าง เช่น การหาว่าแพ็คเกตทั้งหมดมาถึงครบหรือไม่) และตรวจสอบความผิดพลาด เป็นการทำให้มั่นใจว่าการส่งผ่านข้อมูลสมบูรณ์
เลเยอร์ 3 network layer, เลเยอร์นี้ดูแลเส้นทางของข้อมูล (ส่งให้ถูกทิศทางไปยังปลายทางที่ถูกต้อง ขณะที่ส่งผ่านออกไป และการรับ เมื่อส่งผ่านเข้ามาที่ระดับแพ็คเกต) network layer ทำงานด้านเส้นทางและการส่งต่อ
เลเยอร์ 2 data-link layer, เลเยอร์นี้ให้การ synchronization สำหรับระดับกายภาค และทำ bit-stuffing สำหรับข้อความของ 1 มากกว่า 5 เปิดการรับรู้และจัดการโปรโตคอลการส่งผ่าน
เลเยอร์ 1 physical layer, เลเยอร์นี้ส่งผ่าน bit system ผ่านเครือข่ายที่ระดับไฟฟ้าและกลไก เป็นการให้วิธีการกับฮาร์ดแวร์ในการส่งและรับข้อมูลบนตัวกลาง
ตอนที่4
ประโยชน์ของระบบเครือข่ายและการสื่อสารข้อมูล
1.การใช้อุปกรณ์ร่วมกัน
2.การใช้โปรแกรมและข้อมูลร่วมกัน
3.สามารถติดต่อสื่อสารระยะไกลได้
4.สามารถประยุกต์ใช้ในงานด้านธุรกิจได้
5.ความเชื่อถือได้ของระบบงาน
ตอนที่ 5
5.1 Ip Address = 118.0.0.0
-ต้องการแบ่งเป็น 126 subnet
-มีจำนวน host ที่ใช้งานได้ 131,070
Address Class : A
Default subnet mask : 255.0.0.0
Custom subnet mask : 255.254.0.0
Total Number of subnets : 128
Number of usable subnets : 126
Total number of host address :131,072
Number of usable address : 131,070
5.2 Ip Address = 178.100.0.0
-ต้องการแบ่งเป็น 2000 subnet
-มีจำนวน host ที่ใช้งานได้ 15
Address Class : B
Default subnet mask : 255.255.0.0
Custom subnet mask : 255.255.255.224
Total Number of subnets : 2,048
Number of usable subnets : 2,046
Total number of host address : 32
Number of usable address : 30
5.3 Ip Address = 195.85.8.0
-ต้องการแบ่งเป็น 6 subnet
-มีจำนวน host ที่ใช้งานได้ 30
Address Class : C
Default subnet mask : 255.255.255.0
Custom subnet mask : 255.255.255.248
Total Number of subnets : 32
Number of usable subnets : 30
Total number of host address : 8
Number of usable address : 6
Default subnet mask : 255.255.255.0
Custom subnet mask : 255.255.255.248
Total Number of subnets : 32
Number of usable subnets : 30
Total number of host address : 8
Number of usable address : 6
5.4 Ip Address = 148.75.0.0
-ต้องการแบ่งเป็น 1000 subnet
-มีจำนวน host ที่ใช้งานได้ 60
-ต้องการแบ่งเป็น 1000 subnet
-มีจำนวน host ที่ใช้งานได้ 60
Address Class : B
Default subnet mask : 255.255.0.0
Custom subnet mask : 255.255.255.192
Total Number of subnets : 1,024
Number of usable subnets : 1,022
Total number of host address : 64
Number of usable address : 62
Default subnet mask : 255.255.0.0
Custom subnet mask : 255.255.255.192
Total Number of subnets : 1,024
Number of usable subnets : 1,022
Total number of host address : 64
Number of usable address : 62
5.5 Ip Address = 192.10.10.0
-ต้องการแบ่งเป็น 14 subnet
-มีจำนวน host ที่ใช้งานได้ 14
-ต้องการแบ่งเป็น 14 subnet
-มีจำนวน host ที่ใช้งานได้ 14
Address Class : C
Default subnet mask : 255.255.255.0
Custom subnet mask : 255.255.255.240
Total Number of subnets : 16
Number of usable subnets : 14
Total number of host address : 16
Number of usable address : 14
Default subnet mask : 255.255.255.0
Custom subnet mask : 255.255.255.240
Total Number of subnets : 16
Number of usable subnets : 14
Total number of host address : 16
Number of usable address : 14
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น